ถามเพื่อจะท้วงด้วยคำว่า แม้วิปากธัมมธรรม คือธรรมที่เป็นเหตุให้วิบาก
เกิดขึ้น เป็นธรรมเนื่องด้วยอารมณ์นั่นเทียว เหมือนวิบากในบทว่า ทั้ง
วิบากก็มีอารมณ์หรือ. ส่วนปรวาทีตอบรับรองข้อหนึ่ง ปฏิเสธข้อหนึ่ง
ด้วยสามารถแห่งลัทธิ. แม้ในปฏิโลมปัญหาก็นัยนี้เหมือนกัน. คำที่เหลือ
ในที่นี้ บัณฑิตพึงทราบตามพระบาลีนั่นแล.
อรรถกถากัมมูปจยกถา จบ
รวมกถาที่มีในวรรคนี้คือ
1. ปัจจยตากถา 2. อัญญมัญญปัจจยกถา 3. อัทธากถา
4. ขณลยมุหุตตกถา 5. อาสวกถา 6. ชรามรณกถา 7. สัญญาเวทยิตกถา
8. ทุติยสัญญาเวทยิตกถา 9. ตติยสัญญาเวทยิตกถา 10. อสัญญสัตตู-
ปิกกถา 11. กัมมูปจยกถา
วรรคที่ 15 จบ
วรรคที่ 16
นิคคหกาถา
[1639] สกวาที บุคคลอื่น ข่มจิตของบุคคลอื่นได้ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. บุคคลอื่นข่มได้ว่า จิตของบุคคลอื่นอย่ากำหนัด อย่า
ประทุษร้าย อย่าหลง อย่าเศร้าหมอง ดังนี้ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลอื่นข่มจิตของบุคคลอื่นได้ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลอื่นข่มได้ว่า ผัสสะที่เกิดขึ้นแล้วแก่บุคคลอื่น
อย่าดับไปเลย ดังนี้ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลอื่นข่มได้ว่า เวทนาที่เกิดขึ้นแล้ว ฯลฯ สัญญา
ที่เกิดขึ้นแล้ว ฯลฯ เจตนาที่เกิดขึ้นแล้ว จิตที่เกิดขึ้นแล้ว ศรัทธาที่เกิดแล้ว
วิริยะที่เกิดขึ้นแล้ว สติที่เกิดขึ้นแล้ว สมาธิที่เกิดขึ้นแล้ว ฯลฯ ปัญญาที่เกิด
ขึ้นแล้วแก่บุคคลอื่น อย่าดับไปเลย ดังนี้ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1640] ส. บุคคลอื่นข่มจิตของบุคคลอื่นได้ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. บุคคลอื่นละราคะ ละโทสะ ฯลฯ ละอโนตตัปปะ เพื่อ
ประโยชน์แก่บุคคลอื่นได้ หรือ ?